หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2555

แปลงเสียงแผ่นไวนิลลงซีดี..หรือแปลงเสียงจากเทปให้เป็นไฟล์ดิจิตอล.ไม่ใช่เรื่องยากอยากเรียนรู้คลิ๊กเข้ามาเลย


ก่อนอื่น..ลองเข้าไปฟังเสียงจากคลิป youtube
ที่ผมให้มาก่อนนะครับว่าชอบไหม?
ถ้าชอบค่อยมาอ่านบทความข้างล่างนี้ ต่อไป....


สืบเนื่องจากคุณภาพของเพลงและดนตรีในสมัยนี้มันไม่มีความเป็นศาสตร์และ ศิลป์เลยแม้นแต่น้อยนิด โดยเฉพาะศิลปะของดนตรีไทยซึ่งนับวันจะถอยหลังลงคลองซะเป็นส่วนมาก ศิลปินหน้าใหม่ๆต่างเสนอหน้าออกมา (โชว์ห่วย) ทั้งๆที่ความสามารถในตัวตนจริงๆ มันช่างหาความเป็นโปรมิได้เลย (บางคน) จิตวิญาณของความเป็นศิลปินมันช่างไร้ ความขลัง บางคนออกมาทีเหมือนได้ดูจำอวดยังไงอย่างงั้น ค่ายเพลงต่างก็เร่งรีบปั้นศิลปินในค่ายของตัวออกมาเหมือนกับดอกเห็ด อัลบั้มที่ออกมาแต่ละชุดไปดูได้เลย..ห่วยแตกสิ้นดี..นั่นยังไม่นับเครื่อง เคราประกอบที่มีแต่เสียงอีเลคโทรนิคล้วนๆ หาความเป็นธรรมชาติของเครื่องดนตรีแท้ๆมิได้เลย ที่ร้ายยิ่งกว่าบางอัลบั้มมีแค่คีย์บอร์ด (keyboard) ตัวเดียวแล้วไปเอานักร้องระดับศิลปินแห่งชาติมา MIX เสียงเข้าไปแล้วนำออกมาจำหน่ายโดยไม่ละอายใจเลยแม้นแต่น้อยนิด เปิดฟังดูแล้วเหมือนวนิพกที่ร้องเพลงขอทานตามสะพานลอยยังไงอย่างงั้นเลย มันเหมือนการดูถูกผู้บริโภคและเหมือนการทำร้ายประสาทหูของผู้บริโภคชัดๆ ไอ้ครั้งจะไปหาเพลงจากต้นฉบับดั้งเดิม ที่ขับร้องโดยศิลปินคนเดิม นักดนตรีเดิมๆ ได้อรรถรสในบรรยากาศแบบเดิมๆ มันก็หาฟังได้ยากเย็นแสนเข็ญ ถ้าหากเป็นแบบต้นฉบับดั้งเดิมก้อราคาแพงหูดับจนจับไม่ลง สาเหตุใหญ่สุดก็เห็นจะมาจากการที่มีการตั้งกฏหมายคุ้มครองและลิขสิทธิเพลง ขึ้นมาเมื่อกว่า 30 ปีที่ผ่านมา ข้ออ้างที่ว่าเป็นการช่วยเหลือศิลปินที่ได้รับค่าตัวไม่คุ้มกับค่าเหนื่อย ถึงกับมีวลีที่ว่านักร้องนักดนตรีเป็นพวกเต้นกินรำกินไร้อนาคต เป็นข้ออ้างที่ห่วยแตกสิ้นดี อีกทั้งมันเป็นเหมือนการทำลายวงการเพลงและศิลปะวัฒนะธรรมแบบไทยๆไปแทบจะสูญพันธุ์ไปเลยทีเดียว ตั้งแต่กฏหมายลิขสิทธิได้ถูกใช้เมื่อกว่า 30 กว่าปีที่ผ่านมา ถามผู้รู้หน่อยว่ามีไหมที่นักร้องนักดนตรีที่มีฝีมือได้รับความคุ้มครองจาก กฏหมายมาตรานี้ (จริงหรือไม่)...เปล่าเลยไปดูได้..ศิลปินยังจนเหมือนเดิม นักดนตรีที่มีฝีมือต่างเลิกแสดงไปทำไร่ไถนา ขายข้าวแกงปะทังชีวิตไปวันๆไร้ผู้คนเหลียวแล จะมารู้อีกทีก็ต่อเมื่อเจ็บไข้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต จวนเจียนตายนั้นแหละถึงจะเป็นข่าวรับรู้กันไปทั่ว คนที่ได้รับอานิสงฆ์เต็มๆจากกฏหมายลิขสิทธิฉบับนี้ก็ยังคงเป็นเจ้าของค่าย เพลงและนายทุนไม่กี่คนเหมือนเดิม..ที่น่าเจ็บใจคือผู้บริโภคอย่างชาวบ้านที่ ต้องทนฟังเสียงห่วยๆจากนักร้องไร้คุณภาพและดนตรีห่วยแตกที่เล่นโดยนักดนตรี เพียงแค่คนเดียวกับคีย์บอร์ด (keyboard) เส็งเคร็งเพียงเครื่องเดียว...มันนับเป็นโศกนาฏกรรมของวงการเพลงไทยโดยสิ้นเชิง กับกฏหมายเฮงซวยฉบับนี้.

สำหรับเพื่อนๆที่มีแผ่นเสียงเก่าๆ เทปเพลงเก่าๆฉบับออริจินัลเก็บเอาไว้ ผมขอแนะนำให้ลองนำมาแปลงจากไฟล์อนาลอกให้เป็นไฟล์ดิจิตอลเก็บไว้เป็นแผ่นซี ดีเพื่อไว้ฟังในโอกาศต่อๆไปโดยใช้โปรแกรมง่ายๆใช้งานไม่ยุ่งยากนะครับ ลองหัดทำดูรับรองว่าปอกกล้วยเข้าปากยังจะง่ายเสียกว่าอีก..ความจริงมันมี เครื่องมือสำหรับแปลงเสียง Analog ให้เป็นไฟล์ Digital จำหน่ายเหมือนกันแถมใช้งานก็ไม่ยุ่งยากแค่เสียบแจ็คเสียงเข้าไปในเครื่องๆ มันก็จะแปลงเป็นไฟล์ Digital ออกมาให้เสร็จสรรพ ก็แล้วแต่ชอบครับ ลางเนื้อชอบลางยา นานาจิตตัง แต่ละคนก็ต่างจิตต่างใจมีรสนิยมความชมชอบไม่ชอบต่างกันไป แต่สำหรับผมชอบทำอะไรต่อมิอะไรด้วยตัวเองมากกว่า..นอกเสียจากว่าเมื่อทำจน ถึงที่สุดแล้วไม่สำเร็จนั่นแหละ ค่อยไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นแทน อัตตาหิ อัตตโน นาโถ ซึ่งหมายถึงตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน จงช่วยตนเองก่อนๆที่จะไปขอความช่วยเหลือจาก "คนอื่น" ในโลกนี้ไม่มีใครรักและหวังดีในตัวของท่านมากไปกว่าตัวของท่านเองดอก คนอื่นเขาช่วยท่านเพราะมีจุดมุ่งหมายแอบแฝงฉาบไว้ในคำหวานว่าไม่ต้องการสิ่ง ตอบแทน แต่แท้ที่จริงแล้วเบื้องหลังเป็นอย่างไรใครจะรู้ได้....เน๊อะ

สิ่งที่ต้องเตรียมหามาครับ...

1.โปรแกรม Ultar Audio Recorder เวอร์ชั่นไหนก็ได้หรือโปรแกรมอื่นๆที่ใกล้เคียง
(ไปหาซื้อได้ตามบ้านหม้อหรือที่อื่นๆ...ซื้อแผ่นรวมโปรแกรมมา 1 แผ่น
ตามรูปที่เห็น ราคา แผ่นละ 100 บางเจ้าขาย 50 บาท/แผ่น..มีโปรแกรมหนุกๆใส่มาให้เพรียบ..รวมถึงโปรแกรม Ultar Audio Recorder ที่ผมแนะนำ สาเหตุที่ผมใช้โปรแกรมตัวนี้เพราะมันใช้ง่ายดี แค่กด Record Pause และ Stop ก็ใช้งานได้แล้ว หรือจะโหลดฟรีจากเน็ตมาลองใช้ดูก็ไม่ผิดกติกาอะไร)




2.เครื่องเล่นแผ่นเสียง เทป ฯลฯ

3.ปรีแอมป์ หรือ อินทิเกรตแอมป์ ฯลฯ


.เริ่มปฏิบัติการ..เมื่อมีเครื่องไม้เครื่องมือดังกล่าวข้างต้นแล้วก็หา มินิแจ๊ค มา 1 เส้นเอาอันที่ดูดีมีชาติตระกูลหน่อย..เวลาใช้งานจริงมันจะได้ช่วยลดเสียง รบกวนจากอุปกรณ์ไฟฟ้าและคลื่น RF บางชนิดได้เป็นการเซฟตี้ไปเปาะหนึ่ง..ซึ่งมันก็หาได้ไม่ยากนักตามร้าน IT หรือแถวคลองถมมีให้เลือกไม่หวาดไหว..ลักษณะของมินิแจ๊คข้างนึงจะเป็น rca ปลายอีกข้างเป็นแจ๊คไมค์สำหรับเสียบรูไมโครโฟนของเครื่องคอมพิวเตอร์(ในกรณ์นี้ ผมขอกำหนดให้รูสีแดงของเครื่องคอมฯ เป็น in put นะครับ)


ปลายข้างนี้เสียบที่รูสีแดง(ไมค์)ของเครื่องคอมพิวเตอร์ครับ..





รูนี้นะครับ..ลองสังเกตุดูมันจะอยู่ด้านหลังเครื่องคอมฯและด้านหน้าเครื่องคอมฯอย่างละชุด ส่วนจะใช้ได้หรือไม่ต้องดูสายภายในเครื่องด้วยว่าเสียบไว้กับซาวด์การ์ดของเครื่องคอมพิวเตอร์ครบถ้วนไหม..ความจริงจะใช้ช่อง LINE IN รูสีฟ้าก็ได้ใครชอบแบบไหนห็เลือกเอานะครับ


รูนี้นะครับ..ลองสังเกตุดูมันจะอยู่ด้านหลังเครื่องคอมฯและด้านหน้าเครื่องคอมฯอย่างละชุด ส่วนจะใช้ได้หรือไม่ต้องดูสายภายในเครื่องด้วยว่าเสียบไว้กับซาวด์การ์ดของเครื่องคอมพิวเตอร์ครบถ้วนไหม..


ส่วนปลายสายอีกด้านที่เป็นขั้วต่อแบบ RCA
ให้นำไปเสียบที่เครื่องขยายของท่านในช่อง PRE OUT ตามภาพ


หลังจากนั้นตั้งค่าให้กับระบบคอมพิวเตอร์ ว่าจะบันทึกจากแหล่งเสียงไหน
 Line in หรือ Microphone ขั้นตอนก็มีดังนี้ครับ

เริ่มจากการมองหาสัญลักษณ์รูปลำโพงตามข้างบน ที่ Taskbar ของวินโดวส์
และทำการกดดับเบิ้่ลคลิ๊ิกซึ่งจะเกิดเป็นหน้าต่างตามรูปด้านล่างนี้
ซึ่งเป็นส่วนของการปรับ Volume Control


หน้าจอส่วนที่เห็นนี้เป็นส่วนของการปรับสัญญาณ Playback ครับ
หรือ การปรับเสียงที่ออกมาจากเครื่องให้เราได้ยินกันนั่นเอง.......



ลำดับต่อไปก็เลือกกดที่เมนู options และเลือกที่ Properties
แล้วปรับระดับต่างๆ ตามรูปเลยครับ..


จากนั้นให้ทำการสลับมาปรับส่วนของการ Recording โดยเลือกกดที่ Recording
แล้วเลือก การบันทึกเสียงจากทุกแหล่งตามรูปครับ (อาจจะมีให้เลือก แตกต่างกัน
ในบางเครื่องตามซาวด์การ์ดที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องครับ )

โดยหลักๆ ก็จะมี Stereo Mix , Line in , Microphone , ไมค์ด้านหลัง เป็นต้น.



ในรูปตัวอย่างด้านล่างนี้ ผมเลือกที่ ไมค์ด้านหลัง(ให้สังเกตุเครื่องหมายติ๊กถูก)
เพราะต่อสายสัญญาณไมค์ เข้ากับช่องต่อไมค์ด้านหลังไว้ครับ.


เพียงเท่านี้ เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราก็พร้อมจะรับเสียงอันแสนไพเราะ
ของเราเข้าไปในเครื่องแล้วครับ

อันดับต่อไป..ก็จะกล่าวถึงขั้นตอนการนำเสียงจากแหล่งเสียงต่างๆ
เข้าไป เก็บไว้ในคอมฯ โดยผ่านโปรแกรม Ultar Audio Recorder ที่ผมแนะนำให้ใช้นะครับ..

หลังจากเข้าไป Settings...ตามลำดับเสร็จแล้วก็มาเริ่มกันใหม่นะครับ
เพื่อให้ง่ายเข้าทำตามรูปที่เห็นทีละขั้นตอนแล้วกัน รับรองว่าไม่พลาดแน่นอน..

1.เปิดโปรแกรม Ultar Audio Recorde


2.หลังจากเข้าไปในโปรแกรม Ultar Audio Recorde
ก็จะเห็นหน้าต่างอันนี้ ให้สังเกตุคำว่า Record ตามลูกศร..


3.กดคำว่า Record ตามลูกศรก็จะเห็นหน้าต่าง Enter name
หมายถึงให้เราตั้งชื่อไฟล์เสียง กำหนดชื่ออะไรก็ได้ครับ..


4.ในที่นี้ผมกำหนดให้เป็น music 1 ก็แล้วกัน...


5.เมื่อกด OK
เราก็จะเข้ามาในหน้าต่างนี้ครับ
ให้สังเกตุดู คำว่า Record จะหายไป คงเหลือสัญลักษณ์
คำว่า Pause และ Stop แทน และในช่องสี่เหลี่ยมข้าง
ล่างก็จะมีเส้นกราฟขยุกขยิกตามความดังของเสียงที่เรา
ป้อนเข้าไปในเครื่องคอมฯของเราครับ..


6.ในช่องสี่เหลี่ยมที่มีเส้นกราฟให้คอยดู ยอดของเส้นกราฟต้องไม่เกินขอบ 4 เหลี่ยมนะครับ หากมันลำเส้นเกินขอบ..เสียงที่ได้มันก็จะแตกฟังไม่ไพเราะ..ทั้งนี้ทั้งนั้น เราสามารถลดเกนความดังของเสียงได้จากโวลลุ่มของแหล่งเสียงที่เราใช้ป้อนเข้า ไปครับ...


7.เมื่อเพลง จบ ลงแล้วก็กด STOP ได้เลยครับ..


8.เสร็จแล้วก็ลองเข้าไปดูในที่ๆเราเซฟไฟล์เอาไว้..ซึ่ง
ส่วนมากเราก็จะกำหนดเอาไว้ในมายด็อก..นั่นแหละ..
ซึ่งไฟล์เสียงของเราก็สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย
ตามที่เราได้กำหนดเอาไว้แต่แรกนั่นแหละ จะโหลดลงซีดี
เอาไว้ฟังก็ได้อารมณ์ไม่ต่างไปจากแผ่นเสียงเท่าไหร่ดอก
หากมีเครื่อง Mix ดีๆยกเสียงช่วยรับรองว่า..สุโค่ย..เลยล่ะจ้า..


ความจริงมีช่องทางที่ง่ายกว่านั้น...แยะ.. แต่ผมไม่ชอบแถมราคาก็ยังแพงไปหน่อย..แต่ถ้าใครขี้เกียจใช้สมองชอบอะไรที่ ง่ายๆแล้วมีเงินเหลือใช้ก็ลองหาเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่เขาทำสำหรับการนี้ โดยเฉพาะก็ได้ครับ ชอบแบบไหนก็เลือกใช้ตามสะดวก..


เห็นรูปร่างหน้าตาคงไม่ต้องอธิบายนะครับ ว่ามันใช้งานยังไง..ใช้งานบ่อยๆสมองอาจจะเสื่อม ปัญญาหดหายได้เพราะเจ้าเครื่องนี้มันคิดแทนให้หมด..อิ อิ..

นี่ก็เหมือนกัน..สารพัดเสียงผ่านเจ้าเครื่องนี้ปั๊บ..
จะแปลมันงออกมาเป็นไฟล์ดิจิตอลปุ๊บ..โค-ตะ-ระ จะง่ายดายอะไรปานนั้น..

สะดวกแบบไหน..ก็เลือกใช้เอาเองนะครับ..สวัสดี


บทเพลงแทงหวย โดยราชาเพลงลูกทุ่งในอดีต ชาตรี ศรีชล


บทเพลง "ทั้งอัมทั้งอม" มนต์ เมืองเหนือ


เพลงจากภาพยนต์ทีวีเคนโด้ ซึ่งนำแสดงโดย โมริตะ เคนซาคุ
แผ่นนี้น่าจะเกิน 40 ปี ซื้อมาตอนนั้นแผ่นละ 15 บาท

ชื่อเพลงคือ saraba namida to iou


sa-yo-na- ra-wa-da-re-ni-i-u
sa-yo-na- ra-wa-ka-na-shi-mi-ni
a-me-no- fu-ru-hi-o mat-te
sa-ra-ba- na-mi-da-to- i-ou
oo-o-nu- ra-su-na- mi-da-wa
da-re-ni-mo-mi- se-nai
ko-ra-e-ki- re-nu-to-ki-ni-wa
ko-sa-me-ni-na-ga- sou
sa-mi-shi- sa-mo-ka-na-shi-sa-mo
i-ku-ta- bi-ga-de-a-u-da-rou
da-ke-do- son-na-to-ki-de-mo
sa-ra-ba- na-mi-da-to- i-ou
sei-shun-no- kun-shou-wa
ku-ji-ke- na-i-ko-ko-ro-da-to
shit-ta- kyou-de-a-ru-na-ra
sa-ra-ba- na-mi-da-to- i-ou
ma-bu-ta-ha- ra-su-na-mi-da-mo
ko-bo-shi-cha-i- ke-nai
ko-ra-e-ki- re-nu-to-ki-ni-wa
ma-tsu-ge-ni-ta-me- you
koi-no- ta-me-ai-no-ta-me
mat-su- gu-ni-i-ki-ru-ta-me
da-ke-ru- ko-to-mo-a- ru-ke-do
sa-ra-ba- na-mi-da-to- i-ou

เคนโด้อีกเพลง ความประทับใจไม่รู้ลืม
คนที่อายุเลย 50 น่าจะยังคงจำได้ดี

OTOKO NARA KI NI SHINAI